Rudolph's Red Nose Shining

วันพุธที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

บันทึกการเรียนรู้ ครั้งที่ 16 วันพุธที่ 25 เมษายน 2561

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ยินดีต้อนรับเคลื่อนไหว

การนำเสนอคำคมทางการบริหาร


คำคมที่ 1 



การไม่ลงมือทำบางอย่างอาจทำให้ไม่รู้จักการเริ่มต้น
และจะไม่สบผลสำเร็จหรือทำให้สิ่งนั้นเป็นไปไม่ได้

ในภาพอาจจะมี 1 คน, ข้อความ

คำคมที่ 2


เมื่อเจอสิ่งที่รักแล้วถ้าเราตั้งใจทำ สิ่งนั้นจะทำได้ง่าย
และมักจะดีกว่าสิ่งที่ไม่ชอบสมอ

ในภาพอาจจะมี 1 คน, กำลังยิ้ม, ข้อความ


การนำเสนอโมเดลโรงเรียน


กลุ่มที่  1  โรงเรียนจันทร์เจ้า

นำเสนอข้อมูลโรงเรียน

โมเดลโรงเรียน

-  เป็นโรงเรียนอนุบาลมี 1 ชั้น เพื่อความปลอดภัยของเด็กและมีอาคารเรียนต่างๆ  สระว่ายน้ำ สวนผัก สนามเด็กเล่น  และบริเวณหน้าเสาธง  รอบๆโรงเรียนจะเป็นถนนในการเดินทาง


กลุ่มที่  2  โรงเรียนพอเพียง

นำเสนอข้อมูลโรงเรียน

โมเดลโรงเรียน

-  เป็นโรงเรียน 3 ชั้น เพื่อให้แต่ละห้องมีเนื้อที่กว้างขวาง  มีสระว่ายน้ำ  ห้องครัว โรงอาหาร  สนามเด็กเล่น สวนผัก และสนามหญ้าโรงเรียน


กลุ่มที่  3  โรงเรียนชื่นชมนภา

นำเสนอข้อมูลโรงเรียนชื่นชมนภา

โมเดลโรงเรียนชื่นชมนภา

-  เป็นโรงเรียนอนุบาล 2 ชั้น 2 อาคาร  ประกอบด้วยอาคารชั้นเรียน และอาคารอำนวยความสะดวกต่างๆ ทั้งร้านค้า  ห้องประชุม เป็นต้น  มีสวนผัก  วงเวียนจอดรถ  สระว่ายน้ำ และสนามหญ้าภายในโรงเรียน เป็นโรงเรียนที่เน้นธรรมชาติมีต้นไม้และดอกไม้รอบๆ โรงเรียน

วัตถุประสงค์

1. เพื่อส่งเสริมให้เด็กเกิดการเรียนรู้และประสบการณ์อย่างมีความสุข สนุกสนาน
2. เพื่อส่งเสริมพัฒนาการทั้ง ด้านให้เหมาะสมกับวัยของผู้เรียน
3. เพื่อส่งเสริมให้เด็กเกิดปฏิสัมพันธ์กับเพื่อน ครู ตลอดจนสิ่งแวดล้อมใกล้ตัวเด็ก
4. เพื่อส่งเสริมให้เด็กเรียนรู้ด้วยการลงมือกระทำผ่านกิจกรรมหลัก กิจกรรม
5. เพื่อส่งเสริมให้เด็กใช้สื่อเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับวัยของผู้เรียน
6 . เพื่อฝึกและเตรียมพร้อมให้เด็กเรียนรู้ทางด้านภาษาในการสื่อสารเบื้องต้นทั้งไทยและอังกฤษ

7.  เพื่อส่งเสริมให้เด็กเรียนรู้คุณค่าจากพืชพรรณธรรมชาติตอบสนองพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ เป็นแนวทางในการปฏิบัติผ่านกิจกรรมเกษตรกรน้อยปลูกผักปลอดสาร

วิสัยทัศน์

โรงเรียนชื่นชมนภาเป็นโรงเรียนต้นแบบปฐมวัยมุ่งพัฒนาเด็กให้มีร่างกายเจริญเติบโตตามวัยมีระเบียบวินัย เน้นการจัดการเรียนรู้แบบเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ โดยผ่านกิจกรรม สื่อที่มีความหลากหลายและทันสมัยปลูกฝังให้ผู้เรียนรักการเรียนรู้ใฝ่รู้ ใฝ่เรียน มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีและภาษาอังกฤษในการสื่อสารตามมาตรฐานสากล    พัฒนาบุคลากรทางการศึกษาให้มีความรู้ ความสามารถ มีคุณธรรม จริยธรรม และพัฒนาเด็กให้           มีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ในการอยู่ร่วมกัน ผู้ปกครองและชุมชนมีส่วนร่วมในการเรียนของเด็กเพื่อให้เด็กมีพัฒนาการที่มีประสิทธิภาพในอนาคต

คติพจน์

ประพฤติดี ใฝ่เรียนรู้ มีคุณธรรม

ปณิธาน

ปณิธานโรงเรียนชื่นชมนภามีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาเด็กปฐมวัยสู่ความเป็นเลิศทางด้านการเรียนรู้ความประพฤติ และความแตกต่างในความสามารถของเด็กแต่ละคนให้มีศักยภาพต่อการศึกษาและการดำรงชีวิตในสังคมอย่างเหมาะสม

พันธกิจ

 1. จัดการศึกษาให้มีหลักสูตรเหมาะสมกับผู้เรียนมีคุณภาพตามเกณฑ์มาตรฐานสากล
 2. ผู้บริหารมีวิสัยทัศน์กว้างไกล พัฒนาตนเอง และพัฒนาการบริหารอย่างต่อเนื่อง
 3. จัดหาสื่อและเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาสนับสนุนการเรียนการสอนของเด็กอย่างเหมาะสม
 4. จัดการเรียนการสอนแนวบูรณาการ โดยเน้นให้เด็กได้รับประสบการณ์ตรงจากการเรียนรู้
 5 .พัฒนาบุคลากรทางการศึกษาให้มีความรู้ ความสามารถและมีคุณธรรม จริยธรรมอย่างสม่ำเสมอ
 6. พัฒนาสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการเรียนรู้ของเด็กทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน
 7. เปิดโอกาสให้ผู้ปกครองและชุมชนมีส่วนร่วมในกิจกรรมของโรงเรียน ตามความเหมาะสม
 8. ส่งเสริมและพัฒนาความสามารถของเด็กตามความสามารถของแต่ละบุคคล
 9. ศึกษาแหล่งเรียนรู้ในชุมชน เพื่อพัฒนาการเรียนการสอนภายในโรงเรียน
 10. ส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะที่พึงประสงค์มีคุณธรรมจริยธรรม

ประวิติย่อ คำขวัญและวัตถุประสงค์เฉพาะของโรงเรียน
 โรงเรียนอนุบาลชื่นชมนภา เปิดสอนในระดับอนุบาล การศึกษาขั้นพื้นฐาน นายอารักษ์ ศักดิกุล เป็นผู้ก่อตั้ง โดยมีอุดมการณ์ที่จะจัดการศึกษาให้กับเยาวชนที่ดีของครอบครัว สังคม ควบคู่กับธรรมชาติและประเทศชาติในอนาคตต่อไป
โรงเรียนชื่นชมนภา จัดตั้งเมื่อ วันที่ มกราคม 2539 พร้อมทั้งดำเนินการก่อสร้างอาคารเรียนหลังแรกจำนวน  5 ห้องเรียน เปิดทำการสอนเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2539 ต่อมาในปี พ..2545 ได้ทำการก่อสร้างอาคารเรียนเพิ่มรวมทั้งสระว่ายน้ำ จึงนับได้ว่าเป็นสถานศึกษาที่ดีของประเทศที่มีการเรียนการสอนควบคู่ไปกับธรรมชาติ


คำขวัญ

ศึกษาดี มีวินัย ใจเมตตา ใฝ่หาคุณธรรม


ปรัชญาของโรงเรียน
พัฒนาการเด่น เน้นวินัย ใฝ่เรียนรู้ คู่คุณธรรม


 ข้อมูลเกี่ยวกับนักเรียน

เปิดสอนตั้งแต่ระดับเตรียมอุบาล ถึงระดับ อนุบาล 3
การศึกษาปฐมวัย
จำนวนนักเรียนทั้งหมด 350 คน มีเด็กพิเศษ คน

ข้อมูลครูและบุคลากร

​การศึกษาปฐมวัย

สัดส่วนของจำนวนนักเรียน : ครู 22 คน
สัดส่วนของจำนวนนักเรียน : ห้อง 15 คน
มีจำนวนครู   ครบชั้น

ข้อมูลด้านอาคารสถานที่

อาคารภายในโรงเรียนอนุบาลชื่นชมนภา ประกอบด้วย
1.  อาคารกระจ่างฟ้า ประกอบการเรียนการสอนของนักเรียนชั้น อนุบาล อนุบาล และอนุบาล 3
2.  อาคารเฟืองฟ้าประกอบด้วย ห้องสมุด ห้องคอมพิวเตอร์ และห้องสหกรณ์การโรงเรียน
3.  อาคารแปลงผักเกษตรกรน้อยปลูกผักปลอดสาร
-  สนามเด็กเล่น
-  สระว่ายน้ำ
-  อาคารโรงอาหาร

การบริหารงบประมาณ

รายละเอียดการใช้จ่ายงบประมาณ
การใช้งบประมาณงบเงินอุดหนุนทั่วไป รายการเงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน                      (ค่าใช้จ่ายรายหัว) ให้ปฏิบัติตามระเบียบของทางราชการที่เกี่ยวข้อง ประเภทงบรายจ่ายมีดังนี้
1. งบบุคลากร
1.1 ค่าจ้างชั่วคราว
2. งบดําเนินการ
 2.1 ค่าตอบแทน
2.2 ค่าใช้สอย
2.3 ค่าวัสดุ
2.4 ค่าสาธารณูปโภค

สภาพชุมชนโดยรวม

ที่ตั้งของโรงเรียน 5711 ซอย พรหมวิหาร ถนน อิทธิบาท  ตำบล  สังคหวัตถุ  อำเภอ  ไตรลักษณ์                    จังหวัด  กรุงเทพมหานคร  รหัสไปรษณีย์  84000  อยู่ติดถนนใหญ่ สามารถเข้าออกได้ง่าย รถไม่ติดสภาพแวดล้อม  สภาพแวดล้อมภายนอกโรงเรียน ทางทิศตะวันตกตั้งอยู่ใกล้ วัดป่าทางธรรม ทางทิศตะวันออกตั้งอยู่ใกล้ร้านขายของชำสะดวกซื้อตลาดสดโชคดี   ทางทิศเหนือของโรงเรียนเป็นชุมชนแสนสุขที่มีการรณรงค์เศรษฐกิจพอเพียง ส่วนทางทิศใต้ของโรงเรียนเป็นสวนสาธารณะรื่นรมย์
           สภาพแวดล้อมทั่วไป มีความสวยงามรื่นรมย์เย็นสบาย ในโรงเรียนมีทั้งไม้ดอกไม้ประดับ ไม้ยืนต้นชนิดต่างๆ เป็นที่อ่านหนังสือพักผ่อนหย่อนใจและลานให้นักเรียนใช้ทำกิจกรรม


 โครงสร้างหลักสูตร

1. การจัดชั้นเด็กปฐมวัย มีดังนี้
·         ชั้นอนุบาลปีที่ 1 อายุ 4 ขวบ
·         ชั้นอนุบาลปีที่ 2 อายุ 5 ขวบ
·         ชั้นอนุบาลปีที่ อายุ 6 ขวบ

2. ระยะเวลาเรียน3 ปีการศึกษา

3. สาระการเรียนรู้

สาระการเรียนรู้ของหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย ประกอบด้วย 2 ส่วน คือประสบการณ์สำคัญแบ่งเป็นพัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา และสาระที่ควรเรียนรู้ ได้แก่ เรื่องราวเกี่ยวกับตัวเด็ก เรื่องราวเกี่ยวกับบุคคลและสถานที่แวดล้อมเด็ก ธรรมชาติรอบตัว และสิ่งต่าง ๆ รอบตัวเด็ก
ทั้งสองส่วนใช้เป็นหลักแนวคิดในการจัดประสบการณ์ เพื่อส่งเสริมพัฒนาการทุกด้าน ซึ่งจำเป็นต่อการพัฒนาเด็กให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ โดยจัดในรูปแบบหน่วยการสอนแบบบูรณาการกับกิจกรรมหลักทั้ง กิจกรรม ได้แก่ กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ กิจกรรมสร้างสรรค์ กิจกรรมเสรี กิจกรรมเสริมประสบการณ์ กิจกรรมกลางแจ้ง กิจกรรมเกมการศึกษารวมทั้งทักษะพื้นฐานในการดำเนินชีวิตประจำวัน


แหล่งเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นและการใช้

1. ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์
2. ศาลาไทย
3. สนามเด็กเล่น
4. ห้องอูคูเลเล่
5. สวนหย่อม
6. สระว่ายน้ำ
7. ฟาร์มเห็ด
8. แปลงพืชผักสวนครัว


ผลงานดีเด่น

ในรอบปีที่ผ่านมา ประเภทสถานศึกษา โรงเรียนชื่นชมนภาพัฒนาสู่มาตรฐานสากล โรงเรียนอนุบาล  ประจำเขตพื้นที่การศึกษา โรงเรียนดีมีมาตรฐานระดับดีมาก ห้องสมุดโรงเรียนขนาดใหญ่พิเศษ และกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่านยอดเยี่ยม   โรงเรียนชื่นชมนภาจัดการศึกษาระดับปฐมวัยดีเด่น การแข่งขันความเป็นเลิศทางวิชาการ

การประเมิน


ประเมินตนเอง

ตั้งใจฟังที่อาจารย์สอน   และสนใจคำคมและการนำเสนอสถานศึกษาที่เพื่อนนำเสนอจดบันทึกความรู้สิ่งที่แก้ไขในการนำเสนอ

ประเมินเพื่อน

ตั้งใจฟังที่อาจารย์สอน  นำเสนอคำคมและการนำเสนอสถานศึกษาได้เข้าใจง่าย น่าสนใจ และแสดงความคิดเห็นร่วมกัน จดบันทึกความรู้และสิ่งที่ควรแก้ไขให้ดีขึ้น

ประเมินอาจารย์

สนใจการนำเสนอคำคมและกานำเสนอสถานศึกษา  ให้นักศึกษามีส่วนร่วมในการเรียนและรับฟังความคิดเห็นของนักศึกษาเสมอค่ะ :D


ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ขอบคุณเคลื่อนไหว

บันทึกการเรียนรู้ ครั้งที่ 15 วันพุธที่ 18 เมษายน 2561


ขาดเรียนค่ะ



ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ การ์ตูนเสียใจเคลื่อนไหว

บันทึกการเรียนรู้ ครั้งที่ 14 วันพุธที่ 11 เมษายน 2561


หยุดสงกรานต์

บันทึกการเรียนรู้ ครั้งที่ 13 วันพุธที่ 4 เมษายน 2561

การนำเสนอคำคมทางการบริหาร


คำคมที่ 1 

ในภาพอาจจะมี 1 คน, ข้อความ

คำคมที่ 2

ในภาพอาจจะมี 1 คน, ข้อความ

คำคมที่ 3

ในภาพอาจจะมี หนึ่งคนขึ้นไป และ ข้อความ



กระบวนการนิเทศแบบกัลยาณมิตร


ความหมายการนิเทศ




จุดมุ่งหมายการนิเทศ



เนื้อหาสาระการนิเทศ



กระบวนการนิเทศแบบกัลยาณมิตร

          ความมุ่งมั่นในการบริหารจัดการด้านวิชาการในการปฏิรูปการเรียนรู้นั้น ทุกคน  ทุกฝ่ายนับเป็นองค์ประกอบสำคัญ การเป็นเพื่อนร่วมทางที่จะเดินไป
ด้วยกัน อย่างไว้ใจและเชื่อว่าจะชี้แนะช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้ให้ก้าวไปในทางที่ถูกต้องด้วยน้ำใจมิใช่อำนาจ คือ หนทางแห่งกัลยาณมิตร นักวิชาการ
นิเทศ ได้กล่าวเกี่ยวกับการนิเทศที่คำนึงถึงฐานวัฒนธรรมไทยว่า
          - ความเป็นกัลยาณมิตรเป็นกุญแจทองที่จะไขเปิดประตูแห่งความเป็นมิตร
          - ความอ่อนน้อมถ่อมตน ยังเป็นคุณสมบัติที่คนไทยทุกคนยอมรับ
          - ความจริงใจเป็นเครื่องหล่อลื่นสัมพันธภาพ
          - ความมีน้ำใจ เป็นหยดทิพย์ที่ทำให้จิตใจชุ่มชื่นบาน
          - การใช้คำพูดที่สุภาพ จริงใจสม่ำเสมอเป็นเครื่องส่งเสริมความรู้สึกที่ดีต่อกัน 

กัลยาณมิตร ๗ ประการในการนิเทศ

1. ปิโย - น่ารัก สบายใจ สนิทสนม ชวนให้อยากปรึกษา 
2. ครุ - น่าเคารพ ประพฤติสมควรแก่ฐานะ อบอุ่น เป็นที่พึ่งปลอดภัย 
3. ภาวนีโย - น่ายกย่อง / ทรงคุณความรู้ /ภูมิปัญญาแท้จริง และหมั่นปรับปรุงตนอยู่เสมอ 
4. อตตา จ - รู้จักพูดให้ได้ผล รู้จักชี้แจงให้เข้าใจ รู้ว่าควรพูดอะไร อย่างไร เป็นที่ปรึกษาที่ดี 
5. วจนก ขโม - อดทนต่อถ้อยคำ พร้อมที่จะรับฟังคำปรึกษา / คำถามคำวิพากษ์วิจารณ์ 
6. คมภีรญจ กถ กตตา - แถลงเรื่องลึกล้ำได้ อธิบายเรื่องที่ยากให้ง่ายได้ 
7. โน จฏฐาเน นิโยชเน - ไม่แนะนำเรื่องเหลวไหล แนะไปในทางเสื่อม 

องค์ประกอบของกัลยาณมิตร

1. ให้ใจ - การปฐมนิเทศสร้างความเข้าใจร่วมกัน
2. ร่วมใจ - การร่วมคิด ร่วมทำงาน แลกเปลี่ยนรู้ซึ่งกันและกัน
3. ตั้งใจ - เป็นการร่วมกันสร้างสรรค์คุณภาพในการทำงาน
                       + มุ่งมั่นสู่เป้าหมายร่วมกัน
                       + ช่วยกันแก้ปัญหา
                       + ถือว่าผลงานคือคุณภาพของผู้เรียน
4. เปิดใจ - การวัดและประเมินตนเอง ประเมินผลงาน
                       + ประเมินผลการพัฒนาการอย่างเที่ยงตรง
                       + ปราศจากอคติ 


กระบวนการกัลยาณมิตร 

1. ไม่มุ่งเน้นปริมาณ - เน้นความชัดเจนของขั้นตอน วิธีการ
2. สานพลังอาสา - เริ่มที่ศรัทธา / อาสาสมัคร / ไม่ใช่การสั่งการ
3. เสวนาร่วมกัน - ใช้อปริหานิยธรรม ๗
                      + หมั่นประชุมเป็นเนืองนิตย์
                      + พร้อมเพรียงทำกิจที่พึงทำ
                      + ปฏิบัติตามหลักการที่วางไว้/สิ่งใดดีอยู่รู้รักษา
                      + ศรัทธา ยอมรับนับถือกันและกัน
                      + ไม่บังคับ /ไม่ห้ำหั่น /ลุแก่อำนาจบังคับบัญชา
                      + พัฒนาไปตามสภาพจริงของสถานศึกษาที่เป็นเรื่องชัดแจ้ง
                      + คุ้มครองเสริมแรง ห้ำกลังใจ
4. สร้างสรรค์ความเป็นมิตร - ชักชวนให้ร่วมกันพัฒนา
5. ฝึกคิดมุ่งมั่น - มีความเพียร อดทน รู้จักใช้เหตุผล
6. ทุกวันปฏิบัติ - ทำอย่างต่อเนื่อง
7. จัดทำบันทึกแนวทาง - รู้จักสังเกตแล้วบันทึก 

 ปัจจัยเกื้อหนุน ๔ ประการ

1. องค์ความรู้ 
2. แรงหนุนจากต้นสังกัด 
3. ผู้บริหารทุกระดับ 
4. บุคลากรทั้งสถานศึกษา 

บทบาทของผู้บริหารในการนิเทศ

- กระบวนกัลยาณมิตร เป็นการปฏิบัติจริงในสภาพที่เป็นจริง ผู้นิเทศกับผู้รับการนิเทศต้องมีการปรึกษาหารือ ติดต่อสื่อสาร เยี่ยมเยียน แลกเปลี่ยน
เรียนรู้ ช่วยแก้ปัญหาและให้กำลังใจกัน 
- ถ้าจะเปรียบผู้นิเทศก็เป็นเหมือนครูฝึก ( coach ) ของผู้สอน ที่จะต้องโดดลงไปร่วมคิดร่วมทำ มิใช่เพียงร้องบอกให้ผู้สอนลองผิด ลองถูก ตาม
ยถากรรม อาจต้องบอกวิธีให้รู้ สาธิตให้ดุ และช่วยแก้ไขข้อบกพร่องที่พบ 
- การพบปะสนทนาเมื่อเวลานิเทศ ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหาร ครู ศึกษานิเทศก์ กรรมการศึกษา ชุมชนรอบๆสถานศึกษา จะได้ทราบทุกข์ สุข และก่อให้
เกิดความเข้าใจในปัญหาพื้นฐาน เพื่อกำหนดจุดมุ่งหมายในการทำงานต่อไป

“ คลินิกครู ” มีความจำเป็นสำหรับสถานศึกษา โดยจัดช่วงเวลาที่ครูสมารถมาพบในลักษณะกลุ่มสนใจ หรือตามประเด็นปัญหาที่มีผู้นิเทศสนทนา
ให้คำแนะนำ โดยเตรียมข้อมูลเพื่อพบปะสนทนากันใน “ คลินิก ” การเข้าใช้บริการ   “ คลินิกครู ” อาจมีลักษณะเป็นรายบุคคล เป็นคู่ หรือเป็นกลุ่มย่อย
ตามความสมัครใจ ครูที่เข้าพบเป็นผู้เปิดประเด็นและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน ในการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน มุ่งสนับสนุนในการพัฒนาบุคลากรใน
โรงเรียนโดยผู้บริหารต้องเป็นผู้นำในการพัฒนากระบวนการจัดการเรียนรู้ โดยมีโครงการร่วมคิดร่วมทำ เพื่อปรับปรุงพัฒนา ซึ่งผู้บริหารอาจจัดระบบนิเทศ
เป็น 3 ลักษณะ คือ
          1. นิเทศการจัดบรรยากาศห้องเรียน
          2. นิเทศการจัดการเรียนการสอน
          3. การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ร่วมกันของครู


แนวทางการนิเทศ

1. สร้างความสัมพันธ์ แจ้งภารกิจและความมุ่งหมาย จัดเวลา กำหนดวิธีการทำงาน 
2. จัดนิทรรศการทางวิชาการและสาธิตรูปแบบการสอน 
 3. แลกเปลี่ยนเรียนรู้จากประสบการณ์จริง จัดบริการเอกสารทางวิชาการ 
4. วางแผนร่วมกัน เพื่อศึกษาดูงาน 
5. แนะให้ปฏิบัติตามสภาพจริง 
6. พบปะแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากผลการปฏิบัติ และหาทางแก้ไขปรับปรุง 
7. เข้าร่วมประชุม สัมมนา การฝึกอบรมตามโอกาส 
8. นำเสนอผลงานในการประชุมปฏิบัติการ 
9. วัดและประเมินผลงานกัลยาณมิตรนิเทศ

สรุปประเด็นสำคัญ
               หลักการสำคัญ พึงตระหนักว่าการนิเทศนั้นมิใช่การสั่งการ ตรวจสอบ บังคับบัญชา มิใช่การนิเทศกระดาษ แต่เป็นการนิเทศคน กระดาษ เป็นแผนการสอน คะแนนผลสัมฤทธิ์ หรือโครงการ เป็นองค์ประกอบที่แสดงร่องรอยการเรียนรู้ส่วนหนึ่ง แต่ที่สำคัญที่สุด      ผู้นิเทศต้องนิเทศคน พูดคุยกับครู ดูพฤติกรรมของนักเรียน สังเกตบรรยากาศและความสัมพันธ์ในสังคมเรียนรู้นั้นเพื่อเข้าถึงสถานภาพและปัญหา นำไปสู่แนวทางการนิเทศที่ถูกต้อง

สรุปเป็นบทร้อยกรองว่า 

           
ไม่ตั้งตนเป็นคนเหนือคนอื่น ควรหยิบยื่นสิ่งดีดีมีมอบให้ 
                 เสนอแนะให้ขวัญกำลังใจ แสดงว่าจริงใจไม่ทิ้งกัน
           ฟังข้อมูลหนุนให้ทำนำให้คิด ชี้ถูกผิด แนะทางอย่างสร้างสรรค์
                 นำเทคนิคพลิกแพลงมาแบ่งปัน เป็นเพื่อนขวัญบนเส้นทางย่างก้าวเดิน   

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ เส้น เคลื่อนไหว

การประเมิน


ประเมินตนเอง

ตั้งใจฟังที่อาจารย์สอน   และสนใจคำคมและการสัมภาษณ์ผู้บริหารสถานศึกษาที่เพื่อนนำเสนอจดบันทึกความรู้และงานที่ได้รับมอบหมาย

ประเมินเพื่อน

ตั้งใจฟังที่อาจารย์สอน  นำเสนอคำคมและการสัมภาษณ์ผู้บริหารสถานศึกษาได้เข้าใจง่าย น่าสนใจ และ แสดงความคิดเห็นร่วมกัน จดบันทึกความรู้และงานที่ได้รับมอบหมาย

ประเมินอาจารย์

สนใจการนำเสนอคำคมและการสัมภาษณ์ผู้บริหารสถานศึกษา  ให้นักศึกษามีส่วนร่วมในการเรียนและรับฟังความคิดเห็นของนักศึกษาเสมอค่ะ :D

         à¸œà¸¥à¸à¸²à¸£à¸„้นหารูปภาพสำหรับ ขอบคุณ เคลื่อนไหว

บันทึกการเรียนรู้ ครั้งที่ 12 วันพฤหัสบดีที่ 29 มีนาคม 2561

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ยินดี เคลื่อนไหว

ศึกษาดูการบริหารสถานศึกษา

ศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนพิทักษา


ลงรถเสร็จมาต่อเรือ ^^"

เซลฟี่รอเรือมาค่ะ555



ถึงหน้าศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนพิทักษา

หน้าเวทีของศูนย์เด็กๆกำลังทำกิจกรรมหน้าเสาธง

เต้นตามเพลง น่ารักมากๆ ><


เต้นเก่งทุกคน555


รองผู้อำนวยการ อธิบายการบริหารสถานศึกษา


นักศึกษาถามความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานศึกษา

บุคลากรของสถานศึกษาให้ความรู้ในคำตอบที่นักศึกษาถาม

อาจารย์ที่ปรึกษา กล่าวคำยินดีที่ได้มาและให้กำลังใจในการทำงาน

มอบของที่ระลึก

ถ่ายภาพร่วมกัน 

เดินดูตามห้องเรียนภายในสถานศึกษา

สนามเด็กเล่น เขาวงกต

เด็กๆโหนสนุกสนาน

เดินทรงตัว

เล่นรถไฟกัน สื่อของเล่นสนามเล่น ประดิษฐ์เองแข็งแรงและน่ารักทุกอย่างเลยค่ะ

ผลงานศิลปะของเด็กๆ น่ารักมาก

 à¸œà¸¥à¸à¸²à¸£à¸„้นหารูปภาพสำหรับ ยินดี เคลื่อนไหว


ข้อมูลเพิ่มเติม

ศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนพิทักษา


ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ศูนย์พิทักษา


ประวัติศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนพิทักษา

          สำนักงานอนามัยกรุงเทพมหานครได้จัดการอบรมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำชุมชนวัดอมรทายิการามขึ้น หลังจากนั้นกลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขได้สำรวจปัญหาในชุมชนพบว่า
มีปัญหา ประการ คือ ปัญหายาเสพติด และปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพเด็ก 
กลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขจึงตัดสินใจเลือกแก้ปัญหาสุขภาพเด็ก
โดยจัดตั้ง ศูนย์รับเลี้ยงเด็กก่อนวัยเรียนพิทักษา” โดยขอความอนุเคราะห์เรื่องสถานที่จาก
ท่านพระครูวิบูลธรรมภาณ เจ้าอาวาสวัดอมรทายิการาม  เริ่มแรกท่านให้ใช้กุฏิเก่าของท่าน
มีจำนวนเด็ก 40-50 คน มีอาสาสมัครผู้ดูแลเด็ก คน ต่อมากุฏิเก่าเริ่มชำรุดทรุดโทรม
ไม่สามารถซ่อมแซมได้ ท่านเจ้าอาวาสจึงอนุญาตให้สร้างอาคารหลังใหม่ เป็นอาคารชั้นเดียว
โดยมีคณะสงฆ์ ครูและผู้ปกครองร่วมกันก่อสร้าง ได้รับการสนับสนุนทุนสร้าง
จากสำนักงานเขตบางกอกน้อย ผู้ปกครองนักเรียน คณะครู และได้เปลี่ยนชื่อเป็น
ศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนพิทักษา” 
      เปิดเป็นทางการเมื่อวันที่  11 ตุลาคม  พ.ศ. 2527ในปี พ.ศ.2530 ได้เปิดอย่างเป็นทางการ สภาสตรีแห่งชาติและสภาสังคมสงเคราะห์ได้ส่งอาสาสมัครเข้ารับการอบรมเสริมทักษะด้านการเลี้ยงดูเด็ก และอาหารเสริม  ต่อมา ได้เข้าสังกัด กองสังคมสงเคราะห์ กรุงเทพมหานคร ได้รับค่าตอบแทนวันละ 40 บาท อาสาสมัครจำนวน คน ในปี พ.ศ.2536 กองพัฒนาชุมชนได้รับช่วงต่อมา  ให้การสนับสนุนโดยขึ้นค่าตอบแทน  80บาทต่อวัน  ทำงานและส่งเสริมพัฒนาอาสาสมัครผู้ดูแลเด็ก ในเรื่องการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้เด็กแรกเริ่มอาสาสมัครผู้ดูแลเด็กมีวุฒิการศึกษา ปวช.ม.6, ม.เข้ามาทำงานด้วยใจรักเด็ก ไม่หวังค่าตอบแทน  ต่อมาได้ศึกษาต่อด้วยทุนตนเอง จนจบอนุปริญญา และปริญญาตรี 
เป็นการศึกษาเพื่อพัฒนาตนเองและนำความรู้ใหม่ ๆ มาสอนเด็ก ส่วนพวกไม่มีทุนเรียนจะได้รับการอบรมในองค์กรต่างๆ  จากนั้นสำนักพัฒนาสังคม กรุงเทพมหานคร ได้สนับสนุนค่าตอบแทน เพิ่มเป็น 5,640 บาทและทำประกันสังคมให้ 
            ปัจจุบันมีนักเรียนอายุ  2 – 6 ปี  จำนวน 400-500 คน มีอาสาสมัครดูแลเด็กจำนวน  35 คน ได้สร้างอาคารเรียนเพิ่มเป็นอาคารเรียนเป็น ชั้น  และใช้หลักสูตร
การศึกษาปฐมวัย 2546  จัดกิจกรรมให้นักเรียนได้มีพัฒนาการครบทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านการเรียนการสอน ด้านสภาพแวดล้อมให้เจริญตามลำดับมีอาสาสมัครชาวต่างชาติจาก หน่วยงานCross-Cultural Solutions (CCS) องค์กรอาสาสมัครนานาชาติ จดทะเบียนที่กรุงนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้จัดส่งอาสาสมัครชาวต่างชาติมาช่วยสอนภาษาอังกฤษ ทำให้ศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนพิทักษาเป็นที่รู้จักและทำให้เป็นที่ยอมรับของผู้ปกครอง


การจัดการเรียนการสอน

         ศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนพิทักษา มีความมุ่งมั่นปลูกฝังความเป็นผู้นำที่มีจริยธรรมอันดีงาม  พัฒนาความพร้อมในด้านร่างกาย อารมณ์-จิตใจ สังคมและสติปัญญาของเด็กให้เหมาะสมตามวัย  ฝึกให้เด็กสามารถคิด วิเคราะห์แก้ปัญหา และกล้ายอมรับผิดได้อย่างเหมาะสมตามวัย โดยผ่านบทบาทสมมุติ อีกทั้งอยู่ในสังคมอย่างมีความสุขผ่านกิจกรรมต่างๆ ที่เด็กได้ลงมือทำด้วยตนเองมีครูเป็นผู้คอยช่วยเหลือให้คำแนะนำ โดยแบ่งนักเรียนเป็น ระดับชั้น ดังนี้

ระดับเตรียมพร้อม
นักเรียนสามารถช่วยเหลือตนเองเกี่ยวกับกิจวัตรประจำวัน สามารถสื่อความหมายสั้นๆ ง่ายๆ และอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข

ระดับอนุบาล 1
พัฒนาความพร้อมทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ สังคมและสติปัญญาตามวัย พัฒนาความพร้อมของกล้ามเนื้อเล็กและกล้ามเนื้อใหญ่ประสานสัมพันธ์ระหว่างมือกับตา สร้างระเบียบวินัยการอยู่ร่วมกันในสังคม การช่วยเหลือตนเอง

ระดับอนุบาล 2
เสริมสร้างระเบียบวินัยการอยู่ร่วมกันในสังคม กิริยามารยาทที่ดีงาม การช่วยเหลือตนเอง และเตรียมความพร้อมด้านวิชาการ

ระดับอนุบาล 3
ปลูกฝังความเป็นผู้นำที่มีจริยธรรมอันดีงาม ส่งเสริมการเรียนรู้ด้านวิชาการเพื่อพร้อมเข้าเรียนในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1

*เป็นสถานศึกษาที่ไม่มีการปิดภาคเรียน



โครงสร้างการบริหาร





การติดต่อ

ศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนพิทักษา



727/68 ถนนอิสรภาพ แขวงบ้านช่างหล่อ
เขตบางกอกน้อย กทม 10700
โทร. 02 866 1291   Fax.  02 866 1232 


การประเมิน


ประเมินตนเอง

เตรียมความพร้อมในการเดินทางไปศุนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนพิทักษา  ให้ความสนใจและร่วมมือทำกิจกรรมต่างๆ  ตั้งใจฟังการบริหารสถานศึกษา  จดบันทึกความรู้เพิ่มเติม  รับฟังคำแนะนำของผู้บริหารและบุคลากรของสถานศึกษา


ประเมินเพื่อน

ให้ความสนใจและร่วมมือทำกิจกรรมต่างๆ  ตั้งใจฟังการบริหารสถานศึกษา  จดบันทึกความรู้เพิ่มเติม  รับฟังคำแนะนำของผู้บริหารและบุคลากรของสถานศึกษา


ประเมินอาจารย์

อาจารย์ให้ความสนใจในการเดินทางของนักศึกษา  ให้ความรู้ คำแนะนำเพิ่มเติมในการบริหารสถานศึกษา และเปิดโอกาสให้นักศึกษามีส่วนร่วมในการทำกิจกรรม :D


ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ขอบคุณ เคลื่อนไหว